วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2554

แหล่งเรียนรู้การทอผ้าฝ้าย

แหล่งเรียนรู้การทอผ้าฝ้าย



กลุ่มสตรีทอผ้า บ้านนาฝาย ตำบลหัวเรือ อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม

จัดทำโดย
นางสาวอมร บรรจง รหัส 533410080532
สาขาคอมพิวเตอร์ศึกษา หมู่ 5 คณะครุศาสตร์

เสนอ
อาจารย์นราวิชญ์ ศรีเปารยะ
ปีการศึกษา 2554  ภาคเรียนที่ 1
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
 แหล่งเรียนรู้การทอผ้าฝ้าย

ประวัติความเป็นมา
กลุ่มสตรีทอผ้าบ้านนาฝายได้รับการสืบทอดจากบรรพบุรุษจากปู่  ย่า  ตายาย  ไปสู่แม่และถ่ายไปสู่ลูกหลานเรื่อยมา  เพื่อรักษาภูมิปัญญาอันชาญฉลาดของบรรพบุรุษ เป็นหน้าที่ต้องทำและประดิษฐ์คิดค้นสิ่งที่จะทำมาทอผ้า  เช่น  การเตรียมเส้นใยจากพืช  (ฝ้าย) เส้นใยจากสัตว์ ไหม  สีจากเปลือกไม้ธรรมชาติ  หูก  กี่  หลอด  ด้าย  กระสอบ  ไม้เหยียบหูก  แปรงหวี่หูก   ไนสำหรับปั่นหลอด  กงสำหรับใส่ใจด้าย  ฟืม  ลวดลายต่าง ๆ ของช่างทอที่คิดค้นและจินตนาการพร้อมทั้งฝีมือ ของผู้ทอ  เป็นมรดกที่สืบทอดมาตั้งแต่อดีต  เดิมที่ชาวบ้านส่วนใหญ่  โดยเฉพาะผู้หญิงจะทอผ้าไว้ใช้สอยหลังฤดูทำนาเพราะสมัยก่อนยังไม่รู้จักการตั้งกลุ่ม   ต่อมาปี พ.ศ.  2545  ได้มีการนำเอาผ้าที่ทอได้มารวมกันขายให้กบพี่น้องที่มาจากกรุงเทพฯ แล้วก็ได้ราคาดีกว่านำไปขายกันเอง  ชาวบ้านจึงเห็นความสำคัญระหว่างการทำคนเดียวขายคนเดียว กับการรวมกันทำรวมกันขาย  ว่าแตกต่าง กันยังไง   จึงได้ปรึกษากับผู้นำชุมชนเมื่อประชุมประจำเดือน  ซึ่งท่านก็เห็นด้วยและให้การสนับสนุนพร้อมกับเป็นที่ปรึกษาที่ดี  จึงมีการรวมกลุ่มกันขึ้นเป็นกลุ่มสตรีทอผ้าพื้นเมืองบ้านนาฝายเริ่มก่อตั้งในปี   พ.ศ.  2546  โดยมีประธานกลุ่มคือ   นางทองคำ   พาโคกทม   ปัจจุบันมีประธานกลุ่มคือ  นางบัวผัน  วงชารี
กลุ่มทอผ้า   เนื่องจากการสำรวจบัญชีราย-รายจ่ายในครัวเรือนของคนในชุมชนทำให้ทราบว่า รายจ่ายจะมากกว่ารายรับ ซึ่งเป็นปัญหาด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ  จึงมีการรวมกลุ่มกันเพื่อเป็นการสร้างงานอาชีพให้กับคนในกลุ่มมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งมีวัตถุประสงค์ดังนี้
1.             เพื่อปลูกจิตสำนึกในการรู้จักนำภูมิปัญญาที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์
2.             เพื่อให้สมาชิกรู้ความสมานสามัคคีที่จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
3.             เพื่อให้สมาชิกมีงานทำและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เป็นการสร้างงานสร้างอาชีพที่ยั่งยืน
4.             เพื่อพัฒนาและคิดค้นการทอผ้าให้ก้าวไกล
 วิธีการ/ขั้นตอนในการดำเนินงาน
มีการจัดประชุมประชาคมเพื่อรับฟังปัญหาและเก็บข้อมูลต่าง ๆ ของสมาชิก และ ได้ จัดตั้งคณะกรรมการทำงานที่เป็นรูปธรรมและมีผู้รับผิดชอบในแต่ละส่วนดังนี้
ทะเบียนคณะกรรมการกลุ่มทอผ้า
     1.  นางบัวผัน                     วงชารี                   ประธาน

     2.  นางทองยศ                    ก้านสรรไชย         รองประธาน
     3.  นางเบ็ญจวรรณ             ทึนรส                    เลขานุการ/ผู้จัดทำบัญชี
     4.  นางไพรวัลย์                  ปะวันเต                 เหรัญญิก
     5.  นางอ้อย                         กันหา                    ผู้ช่วยเหรัญญิก
     6.  นางอุดม                        คุณสีขาว               ประชาสมพันธ์
     7.  นางทอง                        ขันทัพไทย             ฝ่ายผลิต
     8.  นางมาลัย                       พาโคกทม              ฝ่ายผลิต
     9.  นางอนงค์                      จำปาเกตุ                 ฝ่ายผลิต
     10.  นางเริง                          สุตะภักดี                 ฝ่ายผลิต
     11.  นางหนม                       พาโคกทม               ฝ่ายผลิต
     12.  นางละออง                    ปะกิลาพัง                ฝ่ายการตลาด
     13.  นางทองปาว                  กะกุลนิตย์                ฝ่ายการตลาด
     14.  นางนวลจันทร์               ปะทัง                      กรรมการตรวจสอบ
     15.  นางอำคา                        ปะริเตสัง                 กรรมการตรวจสอบ


กฎระเบียบข้อบังคับ
1.  คณะกรรมการต้องมาจากการยอมรับของสมาชิก

2.  คณะกรรมการต้องอยู่ในวาระ  2  ปี                
3.  สมาชิกทุกคนต้องมีการระดมหุ้น                
4.  สมาชิกทุกคนต้องยอมรับและปฏิบัติตามข้อตกลงหรือสัญญาที่ให้ไว้กับกลุ่ม                
5.  สมาชิกทุกคนต้องมีความสมานสามัคคีกันภายในกลุ่ม                
6.  สมาชิกทุกคนต้องทำกิจกรรมร่วมกัน                
7.  สมาชิกทุกคนต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น                
8.  สมาชิกทุกคนต้องรู้จักหน้าที่ของตนเองและรับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง                
9.  สมาชิกทุกคนต้องยอมรับมติในที่ประชุมกลุ่ม                
10.  สมาชิกทุกคนต้องมาประชุมพร้อมกันเป็นนิจ                
11. สมาชิกทุกคนต้องมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน                
12.  สมาชิกทุกคนต้องเลิกประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน                
13.  สมาชิกทุกคนต้องได้รับผลประโยชน์ร่วมกันโดยแบ่งตามส่วนที่ปฏิบัติ                               
        -  คนที่ให้ความร่วมมือในกิจกรรมก็จะได้ตามความเหมาะสม                                
        -  คนที่ไม่ให้ความร่วมมือก็ต้องหักหรือลดหลั่นลงตามส่วน                
14.  ซื่อสัตย์  สุจริต  เสียสละ  เพื่อส่วนรวมและสังคม                
15.  เมื่อเริ่มทำงานต้องเปิดประชุมกลุ่มทุกครั้ง

 วัตถุประสงค์ของการดำเนินการ
1. เพื่อให้กลุ่มสตรีในหมู่บ้านได้มีส่วนร่วมและได้พึ่งพาอาศัยกันในการทำงาน                

2.เพื่อให้กลุ่มสตรีในหมู่บ้านได้รู้เรื่องการการทอผ้าเพิ่มขึ้นและมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกัน               
3. เพื่อให้กลุ่มสตรีได้นำความรู้มาพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทอผ้า                
4. เพื่อให้กลุ่มสตรีในหมู่บ้านสามารถนำไปประกอบเป็นอาชีพเสริมได้อีกทางหนึ่ง  ซึ่งทำให้เกิดรายได้กับครอบครัวและมีงานทำที่ยั่งยืน

ขั้นตอนและวิธีการดำเนินงาน
    -  มีกระบวนการทอผ้า(เครื่องมือเครื่องใช้อุปกรณ์และวิธีการทอ)  การทอผ้านั้นไม่ได้เป็นรูปแบบการผลิตเพื่อตอบสนองความจำเป็นของมนุษย์เท่านั้น  การทอผ้าโดยตัวของมันเองก็เป็นหนึ่งในรูปแบบการผลิตเพื่อยงชีพที่มีมานาน   อุปกรณ์หลักในการทอผ้ามีดังนี้
   -  กี่  หูก  ไม้เหยียบหูก  ไม้ไขว้  ไม้แป้นหูก  ไม้ค้ำฟืม  เชือกฟืม  เชือกเขา  กระสวย  หลอดด้าย  อัก  กรง  ไน  เป็นต้น
   -  วัตถุดิบคือ เส้นไหม  เส้นฝ้าย  เส้นด้าย
   -  ขั้นตอนการทอ คือเตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการทอผ้าต่าง ๆ ให้ครบแล้วช่างทอก็ดำเนินการตามที่ได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญามา
  -  ด้านการผลิต    
  -  มีช่างทอผ้าที่มีฝีมือเฉพาะตัว
  -  มีช่างคิดค้นลวดลายต่าง ๆ
  -  มีช่างมัดหมี่
  -  มีการกวักไหม  ค้นไหม
 ผลการดำเนินการกลุ่มทอผ้า
    1  สมาชิกได้รวมกลุ่มกันทำงานตามกิจกรรมที่กำหนดขึ้น
    2. สมาชิกมีอาชีพมีงานทำที่ยั่งยืน
    3. สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น
    4. สมาชิกมีผ้าไว้ใช้เองสามารถลดรายจ่ายในครัวเรือนได้อีกทางหนึ่ง
    5. สมาชิกมีความสามัคคีกันเพิ่มขึ้น
    6. สมาชิกได้รู้จักประโยชน์ของการรวมกันเป็นกลุ่ม
    7. สมาชิกรู้จักการแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่ทอได้
    8. สมาชิกรู้จักคิดค้นและพัฒนาลวดลายใหม่ ๆ
ปัญหาและอุปสรรค
    1. การผลิตยังไม่กระจายไปสู่สมาชิกเท่าที่ควร
    2.ยังไม่มีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมาตรฐานในการช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า      
    3. การผลิตมีคุณภาพสีไม่คงที่
    4.สมาชิกกลุ่มมีภารกิจหลักที่บ้านไม่สามารถเดินทางไปจำหน่ายในระยะทางที่ไกล ๆ ได้ไม่มีแหล่งจำหน่ายสินค้าหลัก
    5.  ขาดทุนทรัพย์ในการผลิตเพราะเงินทุนมีจำนวนจำกัด
 แนวทางแก้ไข             
   1. ควรมีการประชุมและกำหนดหน้าที่การทำงานให้ชัดเจนในลักษณะการทำงาน เป็นทีม  การมีส่วนร่วมในเรื่องต่าง ๆ
   2. ควรการค้นคว้าคิดรูปแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อความเป็นมาตรฐาน
   3.  ควรจัดให้มีการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิต(การย้อมสี) กับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย
   4. กลุ่มควรศึกษาดูงาน เพื่อเป็นแรงผลักดันให้สมาชิก  เกิดแรงกระตุ้นในดำเนินงาน  พัฒนาฝีมือด้านการทอ
  5. เห็นควรได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องการอบรมให้ความรู้และงบประมาณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น