อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม
ประวัติความเป็นมา
บริเวณป่าดูนลำพันแห่งนี้เดิมเป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ อยู่ในท้องที่ ตำบลนาเชือก อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม เป็นพื้นที่ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน และบริเวณพื้นที่ป่าแห่งนี้ชาวบ้านได้ให้ความเคารพนับถือมีความเชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีความศักดิ์สิทธิ์รักษา เป็นดอนปู่ตา เป็นป่าวัฒนธรรมหรือป่าประเพณี ทุกปีจะมีการเลี้ยงผีเจ้าปู่ ผีป่า มีการบอกกล่าวก่อนชาวบ้านจะลงนา และที่สำคัญที่สุด คือมีปูป่าชนิดหนึ่งอาศัยอยู่คือ “ปูทูลกระหม่อม” (Thaipotamon chulabhorn .n. 1993) หรือชาวบ้านเรียกว่าปูแป้ง ซึ่งเป็นปูที่มีสีสวยงามมาก และ ปูชนิดนี้ก็มีอยู่แห่งเดียวเท่านั้นคือ ที่ป่าดูนลำพัน
บริเวณป่าดูนลำพันแห่งนี้เดิมเป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ อยู่ในท้องที่ ตำบลนาเชือก อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม เป็นพื้นที่ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน และบริเวณพื้นที่ป่าแห่งนี้ชาวบ้านได้ให้ความเคารพนับถือมีความเชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีความศักดิ์สิทธิ์รักษา เป็นดอนปู่ตา เป็นป่าวัฒนธรรมหรือป่าประเพณี ทุกปีจะมีการเลี้ยงผีเจ้าปู่ ผีป่า มีการบอกกล่าวก่อนชาวบ้านจะลงนา และที่สำคัญที่สุด คือมีปูป่าชนิดหนึ่งอาศัยอยู่คือ “ปูทูลกระหม่อม” (Thaipotamon chulabhorn .n. 1993) หรือชาวบ้านเรียกว่าปูแป้ง ซึ่งเป็นปูที่มีสีสวยงามมาก และ ปูชนิดนี้ก็มีอยู่แห่งเดียวเท่านั้นคือ ที่ป่าดูนลำพัน
เมื่อปี พ.ศ. 2539 กรมป่าไม้ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจ และปี 2540 ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าได้จัดเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปควบคุมพื้นที่เพื่อจะจัดตั้งเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า จนกระทั้งวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2541 นายปองพล อดิเรกสาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประกาศพื้นที่ป่าดูนลำพันแห่งนี้ เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 116 ตอนพิเศษ 40 ลงวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2542
สถานที่ตั้งและขนาดพื้นที่
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลนาเชือก อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม มีเนื้อที่ประมาณ 343 ไร่
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลนาเชือก อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม มีเนื้อที่ประมาณ 343 ไร่
ปูทูลกระหม่อม
ที่ชาวบ้านเรียกว่า“ปูแป้ง”ต่อมาได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี เป็น “ปูทูลกระหม่อม”ใน ปี พ.ศ. 2536 ลักษณะเด่นจะมี 3 สี คือ กระดองเป็นสีม่วงเปลือกมังคุด ขาสีเหลืองส้ม ปลายก้ามปูสีขาวงาช้าง อาศัยอยู่ในป่าพรุ มีลักษณะดินเค็ม น้ำกร่อย มีชนิดเดียวในโลก ในปี พ.ศ. 2554 ได้มีการสำรวจประชากรปูทูลกระหม่อม ระหว่างวันที่ 5 – 10 มิถุนายน 2554 มีจำนวน ประชากรปูทูลกระหม่อม 36, 584 ตัว
ที่ชาวบ้านเรียกว่า“ปูแป้ง”ต่อมาได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี เป็น “ปูทูลกระหม่อม”ใน ปี พ.ศ. 2536 ลักษณะเด่นจะมี 3 สี คือ กระดองเป็นสีม่วงเปลือกมังคุด ขาสีเหลืองส้ม ปลายก้ามปูสีขาวงาช้าง อาศัยอยู่ในป่าพรุ มีลักษณะดินเค็ม น้ำกร่อย มีชนิดเดียวในโลก ในปี พ.ศ. 2554 ได้มีการสำรวจประชากรปูทูลกระหม่อม ระหว่างวันที่ 5 – 10 มิถุนายน 2554 มีจำนวน ประชากรปูทูลกระหม่อม 36, 584 ตัว
สภาพพื้นที่โดยทั่วไป
สภาพพื้นที่ป่าดูนลำพัน ค่อนข้างจะเป็นลักษณะพิเศษ เพราะว่าในพื้นที่ป่าแห่งนี้จะมีสภาพป่าอยู่ 2 ลักษณะคือ
1.สภาพป่าเต็งรัง มีอยู่ประมาณ 40% ซึ่งสภาพป่าบางส่วนได้ถูกทำลายไป พื้นที่จึงโล่งเตียนดินเป็นดินทราย มีการพังทลายดินสูง ดินค่อนข้างเค็ม เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2522 แขวงการทางจังหวัดมหาสารคาม เคยมาทำพื้นที่เป็นที่ทำการชั่วคราว และปลูกต้นไม้ทดแทน เช่นต้น ขี้เหล็ก ต้นกระถินณรงค์ ป่าที่ไม่ถูกทำลายมาก ที่ยังเหลืออยู่ สภาพป่าเป็นป่าเต็งรังนั้นส่วนใหญ่จะเหลือเป็นลูกไม้ ต้นไม้ก็ยังไม่โตนัก
สภาพพื้นที่ป่าดูนลำพัน ค่อนข้างจะเป็นลักษณะพิเศษ เพราะว่าในพื้นที่ป่าแห่งนี้จะมีสภาพป่าอยู่ 2 ลักษณะคือ
1.สภาพป่าเต็งรัง มีอยู่ประมาณ 40% ซึ่งสภาพป่าบางส่วนได้ถูกทำลายไป พื้นที่จึงโล่งเตียนดินเป็นดินทราย มีการพังทลายดินสูง ดินค่อนข้างเค็ม เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2522 แขวงการทางจังหวัดมหาสารคาม เคยมาทำพื้นที่เป็นที่ทำการชั่วคราว และปลูกต้นไม้ทดแทน เช่นต้น ขี้เหล็ก ต้นกระถินณรงค์ ป่าที่ไม่ถูกทำลายมาก ที่ยังเหลืออยู่ สภาพป่าเป็นป่าเต็งรังนั้นส่วนใหญ่จะเหลือเป็นลูกไม้ ต้นไม้ก็ยังไม่โตนัก
2.สภาพคล้ายป่าพรุ ส่วนนี้จะมีอยู่ประมาณ 60% ของพื้นที่จะเป็นที่อยู่อาศัยของปูทูลกระหม่อมสภาพดินจะเป็นดินเหนียว สีเทาปนดำ ซึ่งเกิดจากสภาพใบไม้ทับถมกันมาหลายปี พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่จะเป็นพืชสมุนไพร ไม้เถาวัลย์ชนิดต่างๆ
ชนิดพรรณไม้และสัตว์ป่า
เนื่องจากสภาพพื้นป่าที่ดูนลำพันมี 2 ลักษณะตามที่กล่าวแล้ว จึงแบ่งชนิดพรรณไม้และสัตว์ป่าเด่นๆ ออกตามสภาพที่แยกไว้ดังนี้
1.สภาพป่าเต็งรัง ไม้เด่นๆ ที่มีอยู่เช่น ไม้กราด (สะแบง) มะค่าแต้ ขันทองพยาบาท ทองหลางป่า พฤกษ์ เป็นต้น
2.สภาพคล้ายป่าพรุ ไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้พุ้มเตี้ย มีรากอากาศที่แปลก มีไม้ใหญ่ขึ้นได้ 1 ชุด คือ ไม้รกฟ้า หรือไม้เชือก นอกนั้นเป็นไม้พุ่ม เช่น หนามพรม ต้นผลู หนามแดง นอกจากนี้ยังมีพืชสมุนไพรอีกเป็นจำนวนมาก เช่น เถาเอ็นอ่อน ว่านแผ่นดินเย็น หนามแก่นแทว รากสามสิบ เป็นต้น
เนื่องจากสภาพพื้นป่าที่ดูนลำพันมี 2 ลักษณะตามที่กล่าวแล้ว จึงแบ่งชนิดพรรณไม้และสัตว์ป่าเด่นๆ ออกตามสภาพที่แยกไว้ดังนี้
1.สภาพป่าเต็งรัง ไม้เด่นๆ ที่มีอยู่เช่น ไม้กราด (สะแบง) มะค่าแต้ ขันทองพยาบาท ทองหลางป่า พฤกษ์ เป็นต้น
2.สภาพคล้ายป่าพรุ ไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้พุ้มเตี้ย มีรากอากาศที่แปลก มีไม้ใหญ่ขึ้นได้ 1 ชุด คือ ไม้รกฟ้า หรือไม้เชือก นอกนั้นเป็นไม้พุ่ม เช่น หนามพรม ต้นผลู หนามแดง นอกจากนี้ยังมีพืชสมุนไพรอีกเป็นจำนวนมาก เช่น เถาเอ็นอ่อน ว่านแผ่นดินเย็น หนามแก่นแทว รากสามสิบ เป็นต้น
จุดเด่นที่น่าสนใจ
ได้มีการค้นพบปูน้ำจืดที่มีสีสันสวยงามชนิดใหม่ของโลก ในปี พ.ศ. 2536 ในพื้นที่ป่าดูนลำพัน ภายหลังได้ขอพระราชทานชื่อว่า “ปูทูลกระหม่อม”ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งเดียวที่พบปูชนิดนี้
ปูทูลกระหม่อม (Thaipotamon chulabhorn Naiyanetr , 1993 )
ได้รับพระราชานุญาตให้ตั้งชื่อตามพระนามของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรวลัยลักษณ์
อัครราชกุมารี เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาศทรงเจริญพระชนมายุฯ ครบสามรอบปูทูลกระหม่อมถูกกำหนดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 14 ของสัตว์ป่าจำพวกไม่มีกระดูกสันหลังในกฏกระทรวงฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2543) เพิ่มเติมจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองท้ายกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2537) เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2543 ในประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 117 ตอนที่ 3 วันที่ 28 มกราคม 2543
ปูทูลกระหม่อม เป็นปูน้ำจืดจัดอยู่ในกลุ่มปูป่า มีสีสันสวยงาม กระดองสีม่วงเปลือกมังคุด ขอบเบ้าตา ขอบกระดอง ขาเดินทั้ง 4 คู่ และก้ามหนีบทั้ง 2 ข้าง มีสีเหลืองส้ม ปลายขาข้อสุดท้ายและปลายก้ามหนีบมีสีขาวงาช้าง
ได้มีการค้นพบปูน้ำจืดที่มีสีสันสวยงามชนิดใหม่ของโลก ในปี พ.ศ. 2536 ในพื้นที่ป่าดูนลำพัน ภายหลังได้ขอพระราชทานชื่อว่า “ปูทูลกระหม่อม”ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งเดียวที่พบปูชนิดนี้
ปูทูลกระหม่อม (Thaipotamon chulabhorn Naiyanetr , 1993 )
ได้รับพระราชานุญาตให้ตั้งชื่อตามพระนามของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรวลัยลักษณ์
อัครราชกุมารี เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาศทรงเจริญพระชนมายุฯ ครบสามรอบปูทูลกระหม่อมถูกกำหนดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ลำดับที่ 14 ของสัตว์ป่าจำพวกไม่มีกระดูกสันหลังในกฏกระทรวงฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2543) เพิ่มเติมจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองท้ายกระทรวงฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2537) เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2543 ในประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 117 ตอนที่ 3 วันที่ 28 มกราคม 2543
ปูทูลกระหม่อม เป็นปูน้ำจืดจัดอยู่ในกลุ่มปูป่า มีสีสันสวยงาม กระดองสีม่วงเปลือกมังคุด ขอบเบ้าตา ขอบกระดอง ขาเดินทั้ง 4 คู่ และก้ามหนีบทั้ง 2 ข้าง มีสีเหลืองส้ม ปลายขาข้อสุดท้ายและปลายก้ามหนีบมีสีขาวงาช้าง
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน ได้จัดเตรียมเส้นทางศึกษาธรรมชาติและนิเวศของป่าที่อยู่ของปูทูลกระหม่อมเปรียบเสมือนห้องเรียนธรรมชาติสำหรับผู้ต้องการจะศึกษาจะเรียนรู้ในการค้นคว้าวิจัยซึ่งนับได้ว่าเป็นสถานที่พิเศษหาดูได้ไม่ง่ายนัก นอกจากนั้นยังมีสมุนไพรที่เด่นๆ เช่นกาวเครือ เถาเอ็นอ่อน ว่านแผ่นดินเย็น ฯลฯ เส้นทางศึกษาธรรมชาติในป่าดูนลำพัน มีระยะทางเดินทั้งสิ้นประมาณ 1,085 เมตร ตลอดเส้นทางเดินจะมีป้ายสื่อความหมายต่างๆที่บอกเรื่องราว ของธรรมชาติไว้อย่างชัดเจน นอกจากป้ายสื่อความหมายแล้วยังมีเจ้าหน้าที่ชุดสื่อความหมายทางธรรมชาติ คอยบอกกล่าวเล่าเรื่องราวทำให้เกิดความเพลิดเพลินสนุกสนานและได้ความรู้
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน ได้จัดเตรียมเส้นทางศึกษาธรรมชาติและนิเวศของป่าที่อยู่ของปูทูลกระหม่อมเปรียบเสมือนห้องเรียนธรรมชาติสำหรับผู้ต้องการจะศึกษาจะเรียนรู้ในการค้นคว้าวิจัยซึ่งนับได้ว่าเป็นสถานที่พิเศษหาดูได้ไม่ง่ายนัก นอกจากนั้นยังมีสมุนไพรที่เด่นๆ เช่นกาวเครือ เถาเอ็นอ่อน ว่านแผ่นดินเย็น ฯลฯ เส้นทางศึกษาธรรมชาติในป่าดูนลำพัน มีระยะทางเดินทั้งสิ้นประมาณ 1,085 เมตร ตลอดเส้นทางเดินจะมีป้ายสื่อความหมายต่างๆที่บอกเรื่องราว ของธรรมชาติไว้อย่างชัดเจน นอกจากป้ายสื่อความหมายแล้วยังมีเจ้าหน้าที่ชุดสื่อความหมายทางธรรมชาติ คอยบอกกล่าวเล่าเรื่องราวทำให้เกิดความเพลิดเพลินสนุกสนานและได้ความรู้
จุดชมนก
ก่อนตะวันขึ้นหรือลับขอบฟ้าในยามเช้าหรือยามเย็น ถ้านักท่องเที่ยวได้มายืนอยู่ในบริเวณริมรั้วทางด้านทิศตะวันตกของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน จะได้ยินเสียงแซ่ซ้องเจื้อยแจ้วของนกนานาชนิดเปรียบเสมือนป่าแห่งนี้เป็นดังบ้านที่แสนอบอุ่นของฝูงนกนานาพันธุ์มากมายทำให้ผู้มาเยือนได้พบเห็นเกิดความประทับใจ
ก่อนตะวันขึ้นหรือลับขอบฟ้าในยามเช้าหรือยามเย็น ถ้านักท่องเที่ยวได้มายืนอยู่ในบริเวณริมรั้วทางด้านทิศตะวันตกของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน จะได้ยินเสียงแซ่ซ้องเจื้อยแจ้วของนกนานาชนิดเปรียบเสมือนป่าแห่งนี้เป็นดังบ้านที่แสนอบอุ่นของฝูงนกนานาพันธุ์มากมายทำให้ผู้มาเยือนได้พบเห็นเกิดความประทับใจ
1. หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการพัฒนาประเทศ การใช้งานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นฐานการผลิตสินค้าตอบสนองผู้บริโภค ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียความสมดุลย์ธรรมชาติและการท่องเที่ยวที่ไม่รับผิดชอบเกิดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น เกิดปัญหาน้ำท่วมในที่ลุ่ม ปัญหาภัยแล้ง จากสถานะการดังกล่าว การให้ความรู้แก่เยาวชนนักเรียนแนวทางหนึ่ง ที่จะสร้างความรู้ความเข้าใจและปลูกฝังจิตสำนึกในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อปลูกจิตสำนึกแก่เยาวชน ให้มีความรักและเห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
2.2 เพื่อสร้างความเข้าใจในวัตถุประสงค์ และเหตุผลของการดำเนินการด้านการอนุรักษ์
2.3 เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้มีบทบาทเผยแพร่ และสามารถถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมของโรงเรียน
3. เป้าหมาย
3.1 ด้านปริมาณ
3.1.1 เยาวชนมีจิตสำนึกรักดูแลอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากกว่าร้อยละ 80
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการพัฒนาประเทศ การใช้งานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นฐานการผลิตสินค้าตอบสนองผู้บริโภค ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียความสมดุลย์ธรรมชาติและการท่องเที่ยวที่ไม่รับผิดชอบเกิดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น เกิดปัญหาน้ำท่วมในที่ลุ่ม ปัญหาภัยแล้ง จากสถานะการดังกล่าว การให้ความรู้แก่เยาวชนนักเรียนแนวทางหนึ่ง ที่จะสร้างความรู้ความเข้าใจและปลูกฝังจิตสำนึกในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อปลูกจิตสำนึกแก่เยาวชน ให้มีความรักและเห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
2.2 เพื่อสร้างความเข้าใจในวัตถุประสงค์ และเหตุผลของการดำเนินการด้านการอนุรักษ์
2.3 เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้มีบทบาทเผยแพร่ และสามารถถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมของโรงเรียน
3. เป้าหมาย
3.1 ด้านปริมาณ
3.1.1 เยาวชนมีจิตสำนึกรักดูแลอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากกว่าร้อยละ 80
3.1.2 เยาวชนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นมากกว่าร้อยละ 80
3.2 ด้านคุณภาพ
3.2.1 เยาวชนมีความรู้สึกมีส่วนร่วมผิดชอบมากกว่า ร้อยละ 80
3.2.2 เยาวชนมีเจตคติที่ดีต่อการอยู่ร่วมกันกับสิ่งแวดล้อม
4. พื้นที่ดำเนินการ
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน
5. งบประมาณ
- เงินอื่นๆ จำนวน บาท
6. วิธีการดำเนินการ
รวบรวมข้อมูล
7. เนื้อหาสาระ (กรณีประชุมอบรม/สัมมนา
8. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
1. เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน
9. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. เยาวชนมีความเข้าใจตระหนักในคุณค่าของธรรมชาติพร้อมทั้งบทบาทในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในระดับกว้างออกต่อไปในอนาคต
2. เยาวชนมีความรู้ในกระบวนการกิจกรรม และสามารถนำไปเผยแพร่โดยจัดกลุ่มอนุรักษ์ได้
3. เยาวชนมีเครือข่ายในการอนุรักษ์มากขึ้น
3.2.1 เยาวชนมีความรู้สึกมีส่วนร่วมผิดชอบมากกว่า ร้อยละ 80
3.2.2 เยาวชนมีเจตคติที่ดีต่อการอยู่ร่วมกันกับสิ่งแวดล้อม
4. พื้นที่ดำเนินการ
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน
5. งบประมาณ
- เงินอื่นๆ จำนวน บาท
6. วิธีการดำเนินการ
รวบรวมข้อมูล
7. เนื้อหาสาระ (กรณีประชุมอบรม/สัมมนา
8. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
1. เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดูนลำพัน
9. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. เยาวชนมีความเข้าใจตระหนักในคุณค่าของธรรมชาติพร้อมทั้งบทบาทในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในระดับกว้างออกต่อไปในอนาคต
2. เยาวชนมีความรู้ในกระบวนการกิจกรรม และสามารถนำไปเผยแพร่โดยจัดกลุ่มอนุรักษ์ได้
3. เยาวชนมีเครือข่ายในการอนุรักษ์มากขึ้น
รหัสนักศึกษา 533410080528
สาขาคอมพิวเตอร์ศึกษา
คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น