แหล่งการเรียนรู้กู่ประภาชัยหรือกู่บ้านนาคำน้อย
ในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันได้พบอโรคยาศาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7จำนวน 30 แห่ง และที่จังหวัดขอนแก่น ได้ค้นพบอโรคยาศาลและบูรณะซ่อมแซมเมื่อไม่นานมานี้และได้มีเรื่องเล่าต่างสืบทอดกันมามากมาย จนทำให้เกิดเป็นความเชื่อ วัฒนธรรม ประเพณี อันดีงาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ปรางค์กู่ประภาชัย หรือ กู่บ้านนาคำน้อย ตั้งอยู่ที่บ้านนาคำน้อย ตำบลบัวใหญ่ อำเภอน้ำพอง อยู่บนถนนสายโคสี - น้ำพอง ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับพระธาตุขามแก่น เมื่อถึงสะพานข้ามคลองส่งน้ำจากลำน้ำพอง เลี้ยวซ้ายตามถนนลูกรัง แล้วเลี้ยวขวาข้ามสะพานเข้าหมู่บ้านนาคำน้อยอีก 500 เมตร ถึงวัดกู่ประภาชัย
กู่ประภาชัย หรือกู่บ้านนาคำน้อย คือกลุ่มโบราณสถานที่มีลักษณะแผนผังเป็นอโรคยาศาล สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรเขมร ราวพุทธศตวรรษที่ 18 (พ.ศ. 1720-1780) ประกอบด้วยปรางค์ประธานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสมีมุขยื่นทางด้านหน้า ด้านขวามือเยื้องไปข้างหน้าเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมที่เรียกว่า บรรณาลัย อาคารทั้งสองล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วโดยมี
โคปุระหรือซุ้มประตูทางเข้าออกด้านหน้าหรือทางด้านทิศตะวันออกเพียงด้านเดียว นอกกำแพงที่มุมซ้ายมีสระน้ำ ทั้งหมดสร้างด้วยศิลาแลง โดยมีเสาประดับประตู ทับหลังเป็นหินทราย
กู่ประภาชัย หรือกู่บ้านนาคำน้อย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 52 ตอนที่ 75 วันที่ 8 มีนาคม 2478
พื้นที่เฉพาะโบราณสถานมี ๓ ไร่ ๑ และตอนที่มีการขุดแต่งกันเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๑ นั้น ใหม่ๆ ได้มีเซียนพระมาดูมาก ต้องจัดเวรยามมาเฝ้า เพราะพระองค์หนึ่งที่มีแต่เศียร กรมศิลป์ฯ ก็ตีราคาเป็นสิบล้าน ตอนนี้ ของทั้งหลายที่ขุดได้ เก็บอยู่ใน พิพิธภัณฑ์ชั่วคราวซึ่งกั้นเป็นห้องเล็กๆ ล้อมด้วยลูกกรงสี่ด้านอยู่ในศาลาโถง ทางทิศเหนือของ อโรคยาศาล โดยผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ถือกุญแจ
“หลวงพ่อกู่” ที่ปรางค์กู่ประภาชัย เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ใครเอาหินจากกู่ไปก้อนหนึ่งก็ถึงแก่เป็นลม ชาวบ้านอัญเชิญหลวงพ่อท่านประดิษฐานในศาลาโถงด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ชั่วคราว ให้ลูกหลานได้สักการบูชา นักท่องเที่ยวมักพากันมากราบไหว้ บ้างก็มาบนบานไม่ให้ติดทหาร บ้างก็ขอให้สอบได้ ให้ได้งานทำ ฯลฯ พอถึงตอนแก้บนใครบนอะไรไว้ก็มาแก้ตามนั้น บ้างก็เอาบั้งไฟเก้าหาง ดอกเล็กๆ ซื้อได้จากตลาด มาจุด ทางวัดเองก็เตรียม ผ้าไตร 9 ผืน ไว้ให้เช่าแก้บนด้วย ที่สำคัญคือ จะไม่มีสุราเป็นของแก้บน จึงมีแต่ผลไม้ บั้งไฟเก้าหาง ผ้าไตร 9 ผืน ขัน 5 ขัน 8
ด้านนอกของปรางค์กู่ประภาชัย มีสระน้ำ หรือที่เรียกว่า บาราย เชื่อกันว่าน้ำในสระเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ สมัยก่อนช่วงงานเดือนห้า จะมีการประกอบพิธี โดยจะเอาสายสิญจน์โยงรอบบ่อน้ำ แล้วพระสงฆ์สวด มีคำกล่าวไหว้ หลวงปู่ภูทั้งเก้า มีการสรงน้ำแล้วสาดรอบปราสาท
แล้วตักเอาน้ำในสระกลับบ้าน ในพระราชพิธีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระชนม์มายุครบ ๖๐ ปีและ 72 ปี ก็นำเอาน้ำจากที่นี่ ไปเป็นน้ำสรง โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัด ขอนแก่นเป็นผู้มานำทำพิธีตักน้ำ
ประเพณีที่สำคัญของหมู่บ้าน คือมีพิธีบวงสรวงก่อนทำนา โดยนำเอาเม็ดข้าว เม็ดงา เม็ดถั่ว พริก มะเขือ มาใส่ห่อ แล้วเอาใบมะพร้าวผูกปลายเท่ากับจำนวนคนในครอบครัวและจำนวนสัตว์เลี้ยง มีธูปเทียนดอกไม้ ขัน ๕ ขัน ๘ ขัน ๙ แล้วเอาไปรวมกันที่บ้านจ้ำ เอาใส่หาบ ให้พวกลูกหาบทั้งหญิงชายราว ๖ – ๗ คน หาบตามจ้ำไปทำพิธีที่ปรางค์กู่ ปู่ภูทั้งเก้า ปู่ตาห้าหลัง ปู่หลังเขียว และปู่ผาแดง เครื่องสักการะมีข้าวนึ่ง ไข่ไก่ ไข่เป็ด เหล้าไห ไก่ตัว ชาวบ้านจะไปร่วมพิธีด้วยหรือไม่ก็ได้ เพราะถือว่ามีตัวแทนเป็นใบไม้ไปแล้ว ทำพิธีครบทุกแห่งแล้ว ก็จะมาจุดบั้งไฟใหญ่ ที่แต่ละบ้านทำมา ถ้าขึ้นก็ทำนายได้ว่าฝนฟ้าจะดี
นอกจากนี้ในบริเวณปรางค์กู่ประภาชัยได้มีหินก้อนใหญ่ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์ โดยมีเรื่องเล่าว่า ราว พ.ศ.๒๕๑๑ – ๑๒ มีชาวต่างชาติเดินทางมาที่นี่ มาถึงก็บอกว่าจะมาขอซื้อหินบนยอดไม้ ในราคา ๑ ล้านบาท ชาวบ้านจึงพากันค้นหาก้อนหินดังกล่าว แล้วเจอหินอยู่บนยอดยางชาวบ้านอยากได้ล้านห้า เพราะจะได้มีเงินมาสร้างวัด จึงได้ต่อรองราคาอยู่ตรงลานหน้าโบสถ์ รองเจ้าอาวาสจำวัดอยู่ในโบสถ์ (ปัจจุบันท่านสึกแล้ว) ได้ร้องเสียงดังมากว่าปวดท้อง ชาวบ้านนึกว่าเป็นไส้ติ่ง เมื่อเข้าไปดู พระก็ว่าท่านเห็นเหมือนพระธุดงค์ห่มจีวรสีกลัก โผล่ศีรษะเหนือหน้าต่างบอกว่า “ไม่ให้ขาย” ชาวบ้านเลยทำขัน ๕ มาขอขมาหิน อาการปวดท้องก็หายไป” จึงเป็นที่มาของหินศักดิ์สิทธิ์
คุณประภาส บุญไชย นั้น
“ท่านเป็นคนอุดรฯ แต่เคยมาเป็นปลัดอำเภอประจำตำบลบัวใหญ่แถวนี้ เลยมาจับจองที่วัด ๔๓ ไร่ สร้างวัดนี้ในปี พ.ศ.๒๔๘๒ เพราะเห็นว่ามีปรางค์ปราสาท หรือแถวนี้เรียกกันติดปากว่า “ปรางค์กู่” หรือ “กู่บ้านนาคำน้อย” ท่านมาวางผังบ้านผังเมือง ตอนย้ายไปแล้วก็ยังมาทำบุญอยู่บ่อยๆ พอเสียชีวิตไปเมื่อปี ๒๕๔๖ ลูกหลานเลยทำรูปปั้นท่านมาไว้ที่นี่ เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่คุณประภาส บุญไชย อโรคยาศาลแห่งนี้จึงเรียกกันว่า “กู่ประภาชัย
จัดทำโดย
นางสาวนันท์หทัย แสนโสภา
เอกคอมพิวเตอร์ศึกษา หมู่ 5
รหัส 533410080510
เสนอ
อาจารย์นราวิชญ์ ศรีเปารยะ
วิชา นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น